D.T.C. NEWS

ข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ของดี.ซี.ที. และธุรกิจในเครือ

DTCENTคำโตเที่ยวบูม บริการรถทัวร์จีนหมื่นคัน

มาแล้ว ครม. อนุมัติ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส5 เปิดรับ 5.6 แสนสิทธิ์ กุมภาพันธ์-กันยายน 2566 บูมเที่ยวเมืองรองทั้งไทย-เทศ เข้าทาง

DTCENT ผู้ให้บริการ GPS Ttacking ลูกค้ารถทัวร์ลืมตาอ้าปากนับหมื่นคัน ดันรายได้กลุ่มท่องเที่ยวกลับมาดี เตรียมเดินทางญี่ปุ่นวันนี้กับยักษ์ใหญ่ YES จับตากลับมารับงานเพียบ ด้านโบรกชูกำไรแรง มองเป้า 3.30

  • DTCENT รับท่องเที่ยว

นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดี.ที.ซี. หรือ DTCENT เปิดเผยว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวเร็ว โดยเฉพาะการที่ทางการจีนเปิดให้ทัวร์จีนออกมาท่องเที่ยวใน 20 ประเทศรวมถึงไทยอย่างรวดเร็ว แต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ จะส่งผลบวกกับบริษัทในฐานะผู้ให้บริการระบบติดตามยานพาหนะด้วยดาวเทียม (GPS Tracking) อย่างมาก ซึ่งที่เดิมที่บริษัทมีตลาดรถทัวร์เพื่อท่องเที่ยวที่ติด GPS Tracking นับหมื่นคันที่ได้รับผลกระทบในช่วงสถานการณ์โควิด 2-3 ปีที่ผ่านมา ทําให้บริษัทต้องมีการช่วยเหลือด้วยการลดค่าใช้จ่ายให้ ซึ่งจากสถานการณ์ที่ตลาดกลับมาฟื้นตัว ทําให้บริษัทมีโอกาสที่จะให้บริการได้ตามปกติ “เรามีลูกค้ารถทัวร์ให้บริการกับนักท่องเที่ยวจีน ค่อนข้างมาก ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบกันหมื่นคัน มีล้มหายตายจากไปบ้าง คนที่อยู่ได้ก็ช่วยเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งเมื่อการท่องเที่ยวกลับมาดี ชาวจีนเข้ามา ก็จะมีโอกาสที่จะได้รายได้จากส่วนนี้เพิ่มขึ้นพอสมควร ซึ่งตอนนี้ก็ทยอยเริ่มกลับมาแล้ว” ทั้งนี้บริษัทมีสัญญาให้บริการ GPS TRACKING ปัจจุบันราว 2,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ส่วนนี้ปีละ 600 ล้านบาท

  • เดินทางญี่ปุ่นดีลงาน

นายทศพล กล่าวด้วยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าในการรับงานเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดวันนี้ (25 ม.ค.) บริษัทเตรียมที่จะไปออกงานที่ประเทศญี่ปุ่นกับพันธมิตร คือ บริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจําหน่ายชิ้นส่วนสําหรับยานพาหนะทุกประเภท และถือหุ้นบริษัท อยู่สัดส่วน 13.44% โดยการเดินทางครั้งนี้บริษัทจะได้พบกับซัพพลายเออร์ โรงงานผู้ผลิตรถยนต์เป็น จํานวนมาก เชื่อว่ากลับมาน่าจะได้มีดีลเซ็นสัญญาในด้านการผลิตอุปกรณ์อาทิ IoT Solution รวมถึงระบบบริหารจัดการอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยเทคโนโลยี AI ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญทั้งระบบซอฟต์แวร์ Smart Factory ตลอดจนการพัฒนาไอทีโซลูชั่น

ทั้งนี้ YES ได้เห็นความสามารถของบริษัทและเข้ามาถือหุ้น โดยร่วมผลักดันโครงการงานพัฒนาระบบ GPS&Telematics ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ใน OEM Tier 1 พัฒนา IoT Solution เพื่อรองรับด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานจากนโยบายของภาครัฐ รวมถึงโครงการงานวิจัยพัฒนาสินค้า และบริการให้กับธุรกิจรถ EV และ Solution ด้าน Smart City ตลอดจนใช้เครือข่ายจากทาง YES ในการขยายสาขายังตลาดในภูมิภาคอาเซียน และประเทศอื่นๆ ในอนาคต

สําหรับแผนการดําเนินงานในปี 2566 บริษัทวางเป้าการเติบโตรายได้รวมที่ไม่ต่ำกว่า 10-15% จากปีก่อน โดยปีนี้ภาพรวมอุตสาหกรรมมีแนวโน้มการขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2565 โดยเฉพาะในภาคส่วนของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับขนส่งและโลจิสติกส์ สะท้อนต่อความต้องการใช้งานระบบของบริษัทที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 1/2566 บริษัทจะมีการปล่อยผลิตภัณฑ์ Mobile Application รวมถึงจะมีการปล่อยผลิตภัณฑ์และโปรโมชั่นด้าน Smart City ออกมาเพิ่มเติม ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมกับพันธมิตรต่างประเทศ คาดว่าในปี 2566 จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

  • เป้า 3.30 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จํากัด คาดการณ์ กําไรปี 2565-2566 ราว 106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และ 165 ล้านบาท เติบโต 55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ตามลําดับ หรือเติบโตเฉลี่ย 46% ต่อปีบริษัทมีสัดส่วนรายได้ จากกลุ่ม GPS Tracking ราว 89% ซึ่งกลุ่มลูกค้า ส่วนใหญ่เกือบ 42% อยู่ในหมวดของธุรกิจขนส่งและ โลจิสติกส์ ดังนั้นรายได้ของกลุ่ม GPS Tracking จะเติบโตควบคู่ไปกับการเติบโตของกลุ่มธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ส่วนงาน IoT Solution ซึ่งจะมาช่วยเสริมรายได้ให้กับบริษัทในช่วงปี 2565-2566 ประเมินราคาเหมาะสมในปี 2566 ของ DTCENT ราว 3.30 บาทต่อหุ้น