นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ

          บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ (“บริษัท”) ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า/คู่ค้าทางธุรกิจ ประกอบกับบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งกำหนดมาตรการในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้ประกอบการที่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพ โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะบอกทางเลือกของท่านและการดำเนินการของบริษัทเกี่ยวกับข้อมูลที่ท่านให้กับบริษัท

การใช้บริการของบริษัทอาจเกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลของท่าน (ตามที่กำหนดไว้ในหัวข้อ “ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมและบริษัทเก็บรวบรวมอย่างไร” ด้านล่างนี้) บนบริการของบริษัท (รวมถึงเว็บไซต์และโมบายแอพพลิเคชั่นของบริษัท) ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นที่ท่านจะต้องเข้าใจว่าเรื่องเหล่านี้ดำเนินการอย่างไรและท่านจะสามารถควบคุมได้อย่างไร ดังนั้น ขอให้ท่านกรุณาอ่านนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ด้วยความระมัดระวัง

ช่องทางการติดต่อบริษัท

         ในกรณีที่ท่านประสงค์จะติดต่อบริษัทเกี่ยวกับนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว กรุณาติดต่อบริษัทได้ที่เจ้าหน้าที่ดูแลความเป็นส่วนตัวของบริษัททางอีเมล์ legal@dtc.co.th แผนกดูแลข้อมูลส่วนบุคคล โทร 1176 ต่อ 613 หรือผ่านทางไปรษณีย์มาที่ เลขที่ 63 ซอย สุขุมวิท 68 ถนนสุขุมวิท แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 (ส่งถึง แผนกกฎหมาย (ด้านข้อมูลส่วนบุคคล))

การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

       นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อาจถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ โดยขึ้นอยู่กับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประกาศบังคับใช้ ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมวิธีการใช้ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุไว้นี้ส่งผลกระทบต่อท่าน ท่านจะได้รับการติดต่อผ่านช่องทางที่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น บริษัทอาจจะแจ้งเตือนให้ท่านทราบอย่างชัดเจนบนหน้าระบบบริการหรือส่งอีเมล์ให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เป็นต้น

  1. ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมและบริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างไร

          ในการให้บริการของบริษัทจะเก็บรวบรวม เก็บรักษาและใช้ข้อมูลของท่านดังต่อไปนี้

                     “ข้อมูล” ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่มิใช่ข้อมูลส่วนบุคคล

                     “ข้อมูลส่วนบุคคล” ได้แก่ ข้อมูล หรือการรวมกันของข้อมูลซึ่งเกี่ยวกับท่านและสามารถใช้ระบุตัวตนของ

ท่านได้ โดยที่ข้อมูลส่วนบุคคล อาจรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัทเมื่อมีการเปิดใช้บริการของบริษัท เช่น ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล์แอดเดรส เลขที่บัญชีธนาคาร เป็นต้น
  • ข้อมูลที่แบ่งปันร่วมกันกับผู้อื่นที่ใช้บริการของบริษัทที่ได้จัดส่งให้แก่บริษัท เช่น ข้อมูลที่ระบุในกระทู้ที่มีการตั้ง และการติดต่อสื่อสารกับท่านและผู้อื่นที่ใช้บริการของบริษัท
  • ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากการที่ท่านใช้บริการของบริษัท เช่นข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่บางแห่ง ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการ และข้อมูลสาธารณะ

                      “ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่” ได้แก่ ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่ของท่าน (เมื่อท่านมีการเปิดใช้บริการเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่) ซึ่งรวมถึง:

  • ตำแหน่งพื้นที่ของอุปกรณ์ของท่านเมื่อท่านใช้บริการของบริษัท เช่น ข้อมูลจาก GPS Wi-Fi เข็มทิศ เครื่องวัดความเร่ง หรือการตรวจจับการเคลื่อนไหวอื่นในอุปกรณ์ของท่าน
  • ไอพีแอดเดรสของอุปกรณ์หรือบริการทางอินเตอร์เน็ตที่ท่านใช้ในการเข้าถึงบริการของบริษัท
  • ข้อมูลอื่น ๆ ที่ท่านจัดส่งให้กับบริษัทหรือบุคคลอื่นซึ่งทำให้สามารถระบุตำแหน่งของท่าน หรือสถานที่ที่ท่านอยู่ได้ และข้อมูลที่แบ่งปันร่วมกันที่ท่านหรือบุคคลอื่นระบุซึ่งสามารถบ่งชี้ตำแหน่งพื้นที่ของท่านได้ เช่น ข้อมูลพิกัดตำแหน่งที่ได้ติดตั้งอยู่ในรูปภาพที่ท่านส่งมายังบริษัท
  • ในกรณีที่ท่านได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่ของท่านให้กับบริษัทไว้ก่อนหน้านี้ และประสงค์จะให้บริษัทลบข้อมูลดังกล่าวออก ท่านสามารถดำเนินการได้ผ่านทางบริการของบริษัท

                     “ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าใช้บริการ” ได้แก่ ข้อมูลทางเทคนิคที่บริษัทมีการเก็บรวบรวมโดยอัตโนมัติเมื่อท่านใช้บริการของบริษัท ไม่ว่าจะผ่านทางการใช้งานหรือทางคุกกี้ (ตามที่จะมีการอธิบายในรายละเอียดใน นโยบายเกี่ยวกับคุกกี้) ตำแหน่งพื้นที่ของท่าน หรือข้อมูลอื่นๆ ซึ่งรวมถึง:

  • ข้อมูลทางเทคนิค เช่น ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของท่าน ข้อมูลการตั้งค่าที่ส่งให้แก่บริษัทโดยเว็บเบราเซอร์หรือโปรแกรมอื่นๆ ซึ่งท่านใช้ในการเข้าถึงบริการของบริษัท ไอพีแอดเดรสของท่าน เวอร์ชั่นและเลขทะเบียนของอุปกรณ์ของท่าน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการสืบค้นและการรับชมในขณะที่ท่านใช้บริการของบริษัท เช่น คำสืบค้นที่ได้ใช้ บัญชีโซเชียลมีเดียที่ท่านเข้าชม ข้อมูลและเนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเข้าถึงหรือมีการส่งคำร้องขอจากท่านในการใช้บริการของบริษัท
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารซึ่งท่านใช้ในบริการของบริษัท เช่น บุคคลซึ่งท่านได้มีการติดต่อสื่อสารด้วย และเวลา รวมถึง ระยะเวลาที่ท่านติดต่อสื่อสารด้วย และข้อมูลกำกับ(metadata) ซึ่งหมายถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับรายการที่ท่านได้ใช้ผ่านบริการของบริษัท เช่น วันที่ เวลาหรือตำแหน่งพื้นที่ซึ่งรูปภาพหรือวีดีโอที่ได้ทำการแบ่งปันข้อมูลมานั้นได้ถูกทำขึ้นหรือโพสต์ไว้
  • ตำแหน่งพื้นที่ของอุปกรณ์ที่ให้บริการ เมื่อท่านใช้บริการของบริษัท เช่น ข้อมูลจาก GPS
    Wi-Fi เข็มทิศ เครื่องวัดความเร่ง หรือการตรวจจับการเคลื่อนไหวอื่นในอุปกรณ์ของท่าน

                    “ข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล”ได้แก่ ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านแต่ไม่สามารถใช้ในการระบุตัวตนของท่านไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบของข้อมูลสรุปหรือไม่มีการเปิดเผยชื่อ หรือเป็นนามปากกา

                    “ข้อมูลที่แบ่งปันร่วมกัน” ได้แก่ข้อมูลเกี่ยวกับท่านหรือเกี่ยวข้องกับท่านซึ่งได้มีการแบ่งปันในบริการ
ของบริษัทอย่างสมัครใจ รวมถึงการโพสต์ข้อมูลซึ่งท่านใช้ในบริการของบริษัท (รวมถึงโปรไฟล์สาธารณะของท่านและรายการที่ท่านสร้างขึ้น) ข้อมูลการโพสต์ของบุคคลอื่น ซึ่งท่านได้นำไปโพสต์ซ้ำรวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่และข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับการโพสต์ดังกล่าว ทั้งนี้ ข้อมูลที่แบ่งปันร่วมกันยังรวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับท่าน (ยังรวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งพื้นที่และข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าใช้บริการ) ซึ่งผู้อื่นที่ได้ใช้บริการของบริษัทได้แบ่งปันข้อมูลดังกล่าวเกี่ยวกับท่าน
 
  1. บริษัทใช้ข้อมูลของท่านอย่างไร

            บริษัทอาจใช้ข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้:

  • เพื่อให้บริการของบริษัทแก่ท่าน
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ลูกค้า ความปลอดภัย และการสำรองข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของบริษัท
  • เพื่อการโฆษณาแก่ท่าน
  • เพื่อใช้ในการทำความเข้าใจให้ดีว่าท่านเข้าถึงและใช้บริการของบริษัทอย่างไร และเพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงบริการของบริษัท รวมถึงการดำเนินการตามความประสงค์และความชื่นชอบของท่านอีกทั้งเพื่อการปรับแต่งภาษาและตำแหน่งพื้นที่ การให้ความช่วยเหลือและการชี้แจ้งที่ทำให้เป็นลักษณะส่วนบุคคล หรือการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของท่านและลูกค้ารายอื่น ๆ
  • เพื่อช่วยบริษัทพัฒนาบริการใหม่ ๆ และปรับปรุงบริการที่มีอยู่แล้ว
  • เพื่อทำให้การปรับปรุงโฆษณาและการทำกิจกรรมทางการตลาด กิจกรรมทางการส่งเสริมการขายที่มีอยู่ หรือเกี่ยวข้องกับบริการของบริษัทเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบซอฟต์แวร์หรือบริหารการปรับปรุงซอฟต์แวร์
  • เพื่อให้ท่านสามารถเข้าร่วมในการสำรวจและกิจกรรมอื่น ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท
  • เพื่อใช้เป็นข้อมูลและเอกสารประกอบการดำเนินงานใด ๆ กับธนาคาร สถาบันการเงิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และหน่วยงานภายนอกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

          โปรดสังเกตว่าบริษัทนำข้อมูลของท่านไปใช้ในกระบวนการที่บริษัทจะให้บริการแก่ผู้ใช้เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า หรือเพื่อปรับปรุงบริการของบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคล (ในกรณีที่ท่านให้ความยินยอมไว้) ที่ได้เก็บรวบรวมผ่านบริการใด ๆ ของบริษัท

  1. สิทธิของท่าน

          ท่านอาจมีสิทธิภายใต้กฎหมายไทย หรือกฎหมายอื่นในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และร้องขอที่จะแก้ไข ลบ หรือจำกัดการใช้ข้อมูลของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะคัดค้านการใช้ ร้องขอให้ถ่ายโอนไป หรือเพิกถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการใช้สิทธิของท่านด้านล่างนี้

         บริษัทจะเคารพสิทธิของท่านภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ภายใต้กฎหมายไทย และอาจมีสิทธิที่เหมือนกันนี้ภายใต้กฎหมายอื่น ๆ

  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล กล่าวคือ ท่านมีสิทธิที่จะเขียนคำร้องเพื่อขอทราบถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกจัดเก็บ และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกจัดเก็บไว้
  • สิทธิในการขอแก้ไข กล่าวคือ ท่านมีสิทธิที่จะร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องและดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง
  • สิทธิในการลบข้อมูล (สิทธิที่จะถูกลืม) คือ สิทธิในการที่จะลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านออกจากบริการ
  • สิทธิในการอนุญาตให้ใช้อย่างจำกัด กล่าวคือ สิทธิที่จะร้องขอให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างจำกัดตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้เฉพาะ
  • สิทธิในการยกเลิกประชาสัมพันธ์ด้านการตลาด
  • สิทธิในการคัดค้าน กล่าวคือ ท่านมีสิทธิที่จะคัดค้านการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือในกรณีที่บริษัทให้ท่านทราบถึงการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบสิทธิตามกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลภายนอก
  • สิทธิในการร้องขอให้ถ่ายโอน คือ สิทธิที่จะร้องขอให้ถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจัดเก็บไปยังผู้ให้บริการอื่น หรือบริการอื่น
  • สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม คือ สิทธิที่ท่านจะเพิกถอนความยินยอม ณ เวลาใด ๆ ที่ท่านเคยให้ไว้ก่อนหน้านี้แก่บริษัทในการใช้จัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ถ้าท่านเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้แก่บริษัท จะไม่ส่งผลถึงการใด ๆ ก่อนหน้าที่บริษัทได้ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอ้างสิทธิตามกฎหมาย

          สิทธิดังกล่าวข้างต้นไม่ใช่สิทธิเด็ดขาดและไม่สามารถปรับใช้ได้ทุกกรณี

          ในการตอบสนองคำร้องขอ บริษัทอาจจะร้องขอให้ท่านยืนยันตัวตนหากจำเป็น และจัดหาข้อมูลเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทเข้าใจคำร้องขอของท่านมากยิ่งขึ้น หากบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามคำร้องขอของท่านได้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงเหตุผลดังกล่าว

          ในการใช้สิทธิของท่าน โปรดติดต่อผู้ดูแลข้อมูลส่วนบุคคลตามช่องทางการติดต่อที่แจ้งไว้ทางด้านบน

  1. คุกกี้ และเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน

          กรุณาตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมในนโยบายเกี่ยวกับคุกกี้ของบริษัท ในเรื่องที่เกี่ยวกับว่าบริษัทใช้คุกกี้

  1. การโฆษณาและการตลาด

          บริษัทอาจใช้ข้อมูลของท่านเพื่อจัดส่งโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น อีเมล์ โทรศัพท์ ข้อความ หรือสื่อออนไลน์ เป็นต้น

  1. การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านร่วมกับผู้อื่น

           นอกจากที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ในนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้หรือตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ในกรณีอื่น ๆ บริษัทจะไม่โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกไม่ว่าเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ใด ๆ ก็ตาม บริษัทอาจนำข้อมูลของท่านไปแบ่งปันกับบริษัทอื่น ๆ ภายในกลุ่ม รวมถึงพันธมิตรผู้ร่วมทุนและผู้ให้บริการภายนอก ผู้รับเหมา และตัวแทน (เช่น ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารข้อมูลซึ่งจะจัดส่งอีเมล์หรือการแจ้งข้อมูลในนามของบริษัท ผู้ให้บริการในการวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งให้ความช่วยเหลือในด้านธุรกิจและการโฆษณาเกี่ยวกับบริการของบริษัท) นอกจากนี้บริษัทอาจอนุญาตให้บุคคลอื่นเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการใช้บริการของบริษัทโดยในแต่ละกรณีบริษัทจะอนุญาตให้มีการใช้ข้อมูลของท่าน และ/หรือเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

           (1) ให้บริการแก่ท่าน

           (2) ช่วยเหลือบริษัทเกี่ยวกับการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหัวข้อ ”บริษัทใช้ข้อมูลของท่านอย่างไร” ข้างต้น

           (3) ดำเนินการตามข้อผูกพันและการบังคับใช้สิทธิของบริษัทภายใต้ข้อกำหนดการใช้บริการ หรือนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ/หรือ

           (4) ธุรกิจของบริษัทซึ่งรวมไปถึงการนำข้อมูลไปใช้เพื่อให้บริษัทสามารถทำความเข้าใจและปรับปรุงการบริการของบริษัท

           ในกรณีที่บริษัทอนุญาตให้บุคคลอื่นเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในวรรคก่อนบริษัทจะดำเนินการตามสมควรเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลอื่นเหล่านั้นจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในเรื่องดังต่อไปนี้เท่านั้น

           (1) เป็นไปโดยสอดคล้องกับนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

           (2) อยู่ภายใต้บังคับของคำสั่งอื่น ๆ ที่บริษัทได้กำหนดและแจ้งให้แก่บุคคลข้างต้นได้รับทราบรวมถึงนำมาตรการที่เหมาะสมที่บริษัทใช้ในการ รักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลไปปฏิบัติด้วย

           ท่านให้ความยินยอมแก่บุคคลอื่นตามที่ระบุไว้เพื่อใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมถึงการนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปแบ่งปันหรือโอนให้กับผู้อื่น (รวมทั้งกรณีที่อยู่ในและอยู่นอกเขตอำนาจศาลที่ใช้บังคับกับท่าน) ตามที่ได้ระบุไว้ในหัวข้อ “การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านร่วมกับผู้อื่น”

           เนื่องจากบริษัทได้มีการพัฒนาธุรกิจอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นบริษัทอาจถูกโอนให้กับบุคคลอื่นหรือมีการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มของบริษัทได้ โดยในกรณีเช่นว่านี้อาจทำให้มีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านระหว่างภายในกลุ่มของบริษัท และ/หรือไปยังบุคคลภายนอกซึ่งจะเป็นผู้ให้บริการของบริษัทหรือ ที่คล้ายคลึงกับบริการของบริษัทตามนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้หรือ นโยบายในความเป็นส่วนตัวอื่น ๆ ซึ่งบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบ ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีสำนักงานตั้งอยู่หรือนำข้อมูลของท่านไปใช้นอกเขตอำนาจศาลที่ใช้บังคับกับท่าน

           ท่านตกลงว่าบริษัทอาจจำเป็นที่จะต้องคงไว้ เก็บรักษาหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

           (1) เพื่อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

           (2) เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งศาล หมายศาลหรือกระบวนการในทางกฎหมายอื่น ๆ

           (3) เพื่อดำเนินการตามคำร้องขอของหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายหรือหน่วยงานอื่นใดในทำนองเดียวกัน (ไม่ว่าจะตั้งอยู่ในเขตอำนาจศาลที่ใช้บังคับกับท่านหรือที่อื่นก็ตาม) หรือ

           (4) ในกรณีที่บริษัทเชื่อว่ามีความจำเป็นอันสมควรที่จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ท่านตกลงว่าบริษัทอาจจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อบังคับใช้เงื่อนไขเกี่ยวกับการให้บริการหรือนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เพื่อความมุ่งหมายในการปกป้องสิทธิ ทรัพย์สินหรือความปลอดภัยของบริษัท หรือผู้ใช้บริการของบริษัทรายอื่น ๆ

  1. การติดต่อสื่อสารจากบริษัท

          จดหมายข่าวและการติดต่อสื่อสารในรูปแบบอื่น เมื่อท่านใช้บริการของบริษัท บริษัทอาจใช้ข้อมูลของท่านเพื่อจัดส่งอีเมล์ จดหมายข่าว หรือการแจ้งข้อมูลมายังอุปกรณ์ของท่านได้ ในกรณีที่ท่านไม่ประสงค์จะได้รับการติดต่อสื่อสารดังกล่าวอีกต่อไป ท่านสามารถกระทำได้โดยการปฏิบัติตามรายละเอียดของการยกเลิกการรับข้อมูลตามที่ปรากฏอยู่ในอีเมล์ที่บริษัทจัดส่งให้แก่ท่าน หรือทำการปิดระบบการแจ้งเตือนที่อยู่ในอุปกรณ์ของท่าน (ในกรณีที่สามารถทำได้) หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ดูแลความเป็นส่วนตัวของบริษัท

          ประกาศที่เกี่ยวกับบริการ

          บริษัทอาจจะจัดส่งประกาศที่เกี่ยวกับบริการให้แก่ท่านเป็นครั้งคราวเมื่อบริษัทเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการในเรื่องนั้น (เช่น การระงับการให้บริการเป็นการชั่วคราวในบริการใดบริการหนึ่งเพื่อการบำรุงรักษา) ซึ่งท่านจะไม่สามารถทำการเลือกเพื่อปิดการรับประกาศเกี่ยวกับบริการดังกล่าวนี้ซึ่งมิได้มีเนื้อหาเป็นการประชาสัมพันธ์แต่งอย่างใด

  1. ข้อพิจารณาเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญ (Sensitive Personal Information)

          ในเขตอำนาจศาลบางแห่งข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณีเช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ ชาติพันธุ์ ศาสนา ความเชื่อในเรื่องปรัชญาหรือข้อมูลด้านสุขภาพถูกกำหนดให้เป็น”ข้อมูลสำคัญ”และอยู่ภายใต้บังคับของกฎ ระเบียบที่มีความเข้มงวดมากกว่าข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีอื่น ๆ ทั้งนี้โปรดสังเกตว่าเนื้อหาและข้อมูลที่ท่านได้ใช้ในบริการของบริษัท เช่น รูปภาพหรือข้อมูลกิจกรรมทางสังคมของท่านอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญของท่านให้แก่บุคคลอื่นทราบได้

          โปรดสังเกตว่าบริษัทมิได้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาใด ๆ แก่ท่าน

          บริษัทขอให้ท่านพิจารณาว่าการสื่อสารข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญในบริการของบริษัทเป็นเรื่องที่มีความเหมาะสมหรือไม่

  1. บริการของบุคคลอื่นที่รวมอยู่ในบริการของบริษัท

          บริการของบริษัทอาจมีข้อมูลหรืออาจมีการเชื่อมต่อท่านไปยังข้อมูลเกี่ยวกับโซเชียลมีเดียหรือบริการอื่น ๆ (รวมถึงเว็บไซต์) ของผู้อื่นได้ ตัวอย่างเช่น

  • ในบางกรณีท่านสามารถที่จะแบ่งปันเนื้อหาของท่านในบริการของบริษัทผ่านทางบริการของบุคคลอื่น ซึ่งบุคคลอื่นที่จัดให้มีบริการดังกล่าวอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านและข้อมูลส่วนตัวของท่าน (รวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าใช้บริการ) เพื่อให้บริการของบุคคลภายนอกสามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และ
  • บริษัทอาจจะ (ไม่ว่าจะอยู่ในโฆษณาหรืออยู่ในส่วนอื่นในบริการของบริษัทก็ตาม) จัดส่งลิ้งค์ให้แก่ท่านเพื่อให้ท่านสามารถเข้าถึงบริการหรือเว็บไซต์ของบุคคลอื่นนั้นได้

 

          บริการโซเชียลมีเดียหรือบริการอื่นๆของผู้ให้บริการภายนอกเหล่านี้อาจเป็นการให้บริการโดยบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องหรือโดยบริษัทก็ได้การใช้บริการภายนอกข้างต้น (ไม่ว่าจะเป็นบริการโซเชียลมีเดียหรือบริการอื่นใดก็ตาม) รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านมีการส่งให้กับบุคคลภายนอกดังกล่าวจะอยู่ภายใต้บังคับของเงื่อนไขการให้บริการและนโยบายในความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวข้องของบุคคลภายนอกนั้น ๆ และข้อกำหนดการใช้บริการ ของบริษัทหรือนโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะไม่นำไปใช้บังคับ ดังนั้นกรุณาพิจารณาเงื่อนไขต่าง ๆ ของผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าวอย่างรอบคอบ

          นโยบายในความเป็นส่วนตัวฉบับนี้จะใช้บังคับกับข้อมูลที่บริษัทเป็นผู้เก็บรวบรวมเท่านั้นและจะไม่นำไปใช้บังคับกับบริการของผู้ให้บริการภายนอกหรือวิธีดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลของผู้ให้บริการภายนอกดังกล่าวและบริษัทจะไม่มีความรับผิดในการที่ผู้ให้บริการภายนอกนำข้อมูลของท่านไปใช้แต่อย่างใด

  1. การถ่ายโอนระหว่างประเทศ

          บริการนี้ถูกควบคุมกำกับดูแลและดำเนินการภายใต้กฎหมายของราชอาณาจักรไทย หากท่านอยู่นอกพื้นที่ราชอาณาจักรไทย ถือว่าท่านได้ใช้บริการนี้ด้วยความเสี่ยงของตัวท่านเอง โดยที่บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) อาจมีความจำเป็นที่จะต้องถ่ายโอนข้อมูลของท่านระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อมูลของท่านจะถูกถ่ายโอนไปยังและจัดการอยู่ในราชอาณาจักรไทยที่เป็นศูนย์รวมข้อมูลของบริษัท และท่านรับทราบว่าการปกป้องข้อมูลและกฎหมายอื่นของต่างประเทศที่ไม่ใช่ประเทศของท่าน เช่น ราชอาณาจักรไทย อาจมีความคุ้มครองหรือมาตรฐานการคุ้มครองน้อยกว่าที่มีอยู่ในประเทศของท่าน และท่านยินยอมให้เก็บข้อมูล ดำเนินการและถ่ายโอนข้อมูลของท่านตามที่กำหนดไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวและกฎหมายราชอาณาจักรไทยสำหรับการใช้บริการนี้ นอกจากนี้บริษัทจะทำตามขั้นตอนตามกฎหมายอย่างเหมาะสมเพื่อที่จะมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกจัดการ รักษา และถ่ายโอนอย่างปลอดภัย ในบางกรณีบริษัทอาจจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยหรือโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคลไปยังสำนักงานใหญ่ หรือบุคคลภายนอก ในพื้นที่นอกเหนือจากประเทศของท่าน

  1. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

          บริษัทมีการวางโครงสร้างทั้งทางกายภาพ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ และกระบวนการบริหารจัดการที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และเพื่อใช้ข้อมูลที่บริษัทเก็บมาได้อย่างถูกต้อง การรักษาความปลอดภัยเหล่านี้มีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับความสำคัญของข้อมูลที่บริษัทได้มาหรือจัดเก็บไว้

          ในบางกรณีบริษัทอาจใช้เทคโนโลยีในการเข้ารหัส (เช่นระบบเอสเอสแอล) เพื่อคุ้มครองข้อมูลที่มีความสำคัญบางอย่างซึ่งท่านจัดส่งให้แก่บริษัท ทั้งนี้ขอให้ท่านโปรดรับทราบด้วยว่าไม่ว่าบริษัทจะใช้ความพยายามในการดำเนินการเพียงใด แต่ยังไม่มีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลใดที่สามารถรับประกันความปลอดภัยได้ 100% ตลอดเวลา โดยที่ระบบและเครือข่ายในการสื่อสารของบริษัทซึ่งเชื่อมต่อท่านในการเข้าถึงบริการของบริษัทอาจเกิดกรณีที่มีการละเมิดมาตรการในด้านการรักษาความปลอดภัยและมีความผิดพลาดซึ่งเป็นสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมตามสมควรของบริษัท

  1. การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และเก็บนานเท่าไหร่

          ภายใต้บังคับของหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (รวมถึงเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในหัวข้อ “การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านร่วมกับผู้อื่น” ข้างต้น) บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหัวข้อ “บริษัทใช้ข้อมูลของท่านอย่างไร” ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นเท่านั้น

          บริษัทจะเก็บข้อมูลของท่านเป็นไปตามระยะเวลาการเก็บรักษาและความจำเป็นในการใช้ข้อมูลของบริษัท ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ข้อกำหนดการเก็บรักษาข้อมูลสำหรับคำนวณเวลาการเก็บรักษาข้อมูลที่ระบุไว้ด้านล่าง

          บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) มีฝ่ายดูแลและจัดเก็บข้อมูลที่ทำงานร่วมกับฝ่ายดูแลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อที่จะพัฒนาปรับปรุงนโยบายและกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทมีข้อกำหนดการเก็บรักษาข้อมูลเป็นไปตามแต่ละแผนธุรกิจ ประกอบไปด้วย รูปแบบของธุรกิจ รูปแบบการบันทึก และรูปแบบการจัดเก็บ

          บริษัทคำนวณระยะเวลาการจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามกฎเกณฑ์ดังต่อไปนี้

  • ระยะเวลาที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ
  • เมื่อท่าน (หรือบุคคลอื่นที่ให้ท่านเข้าถึงบริการของบริษัท) หยุดการใช้บริการของบริษัท
  • ระยะเวลาตามสมควรในการจัดเก็บที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทได้ทำตามหน้าที่และข้อตกลงต่าง ๆ
  • ภายในระยะเวลาที่จำกัดที่อาจมีข้อเรียกร้องเกิดขึ้น
  • ภายในระยะเวลาการเก็บรักษาที่สอดคล้องกับกฎหมายหรือได้รับการแนะนำจากผู้ควบคุม ผู้ออกกฎเกณฑ์ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือองค์กรรัฐ
  • หรือความจำเป็นที่ต้องมีอยู่เพื่อการให้บริการใดๆ แก่ท่าน