D.T.C. BLOG

อัพเดตข่าวสารความรู้โลจิสติกส์

ต่อภาษีรถออนไลน์ 2565 ง่ายนิดเดียว

การต่อภาษีรถด้วยระบบออนไลน์ปี 2565   บอกเลยว่าง่ายและสะดวกมากๆ ไม่ต้องเดินทางไปกรมขนส่งทางบก แถมใช้เวลาไม่นาน อยู่ที่ไหนก็สามารถต่อภาษีรถได้   ผ่านระบบ e-Service และทางแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax  วันนี้ DTC มีขั้นตอนการต่อภาษีรถออนไลน์มาฝากกันครับ

ประเภทรถที่สามารถต่อภาษีรถออนไลน์ได้

  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน
  • รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
  • รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์
  • อายุรถไม่เกิน 7 ปี (ถ้ารถเกิน 7 ปี ต้องทำการตรวจสภาพรถก่อน)
  • รถจักรยานยนต์ อายุรถไม่เกิน 5 ปี (ถ้ารถเกิน 5 ปี ต้องทำการตรวจสภาพรถก่อน)
  • รถค้างชำระภาษีไม่เกิน 1 ปี
  • รถยนต์ที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงแก๊สทุกชนิด
  • รถที่มีสถานะทะเบียนปกติ หรือไม่ถูกระงับทะเบียนเนื่องจากค้างชำระภาษีประจำปี ติดต่อกันครบ 3 ปี
  • รถที่ไม่ได้รับการยกเว้นค่าภาษีประจำปี
  • รถที่ไม่ถูกอายัดทะเบียน

เอกสารและหลักฐานที่ประกอบการยื่นเสียภาษีรถออนไลน์

  • สมุดคู่มือจดทะเบียนรถตัวจริงหรือสำเนา (ถ่ายเป็นไฟล์รูป)
  • หลักฐานการเอาประกันภัยตาม พ.ร.บ (ถ่ายเป็นไฟล์รูป)
  • บัตรประชาชนตัวจริงของเจ้าของรถ (ถ่ายเป็นไฟล์รูป)
  • หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) (สำหรับรถที่เกิน 7 ปี ต้องได้รับการตรวจ โดยข้อมูลจะถูกส่งไปยังกรมขนส่งในทันทีหลังจากการตรวจผ่านเกณฑ์)
  • กรณีที่ใช้รถที่ติดตั้งก๊าซธรรมชาติ จะต้องมีหนังสือรับรองการตรวจและทดสอบส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ และการติดตั้งส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์ของรถ (ถ่ายเป็นไฟล์รูป)

ขั้นตอนการชำระภาษีรถและมอเตอร์ไซค์ออนไลน์ผ่าน e-Service

1. เข้าไปยังเว็บไซต์  https://eservice.dlt.go.th หรือผ่านทางแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax (สำหรับช่องทางแอปพลิเคชัน รถเก่าอายุเกิน 7 ปี ไม่สามารถทำได้)

2. Log-in เข้าสู่ระบบ หรือถ้าคุณยังไม่เคยต่อภาษีแบบออนไลน์  “เลือกลงทะเบียนสมาชิกใหม่”

3. จากนั้นเลือก “ชำระภาษีรถประจำปี” ในเมนูย่อยเลือก “ชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเตอร์เน็ต”

4. กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถและยื่นชำระภาษี และกรอกรายละเอียดหลักฐานการเอาประกันตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 หรือซื้อจากระบบ

5. กรอกข้อมูลที่อยู่ในการจัดส่งเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้อง

6. เลือกช่องทางการชำระเงินเพียง 1 ช่องทาง ได้แก่

        – ชำระเงินโดยหักบัญชีเงินฝาก (ต้องมีบัญชีเงินฝากและเป็นสมาชิกใช้บริการโอนเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ตกับธนาคาร/สถาบันการเงิน)        

        – ชำระเงินโดยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต (เป็นผู้ถือบัตรเครดิต/บัตรเดบิต ที่มีสัญลักษณ์ VISA , Master Card)   โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาและธนาคารกรุงเทพ เป็นผู้ให้บริการรับตัดบัตร          

        – ชำระเงินโดยพิมพ์ใบแจ้งชำระภาษีรถแล้วนำไปชำระเงิน ณ เคาน์เตอร์ ตู้ ATM หรือ Application ของธนาคาร/สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ

7.  การตรวจสอบสถานะสามารถตรวจสอบสถานะการดำเนินการยื่นชำระภาษี สถานะการจัดส่งเอกสาร หมายเลข EMS เลขกรมธรรม์ หรือปัญหาจากการยื่นชำระ ได้ที่เมนู “ตรวจสอบผลการชำระภาษี/เปลี่ยนช่องทางชำระเงิน”

อัตราค่าบริการ

  • ค่าจัดส่งเอกสาร รายการละ 32 บาท
  • ค่าธรรมเนียมธนาคาร รายการละ 20 บาท
  • ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร (กรณีชำระด้วยบัตรเครดิต) 2% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของยอดเงินทั้งหมด

ขั้นตอนทั้งหมดตั้งแต่ชำระเงินภาษีสำเร็จจนถึงวันที่ได้รับเอกสารทางไปรษณีย์ไม่เกิน 5 วันทำการ โดยเจ้าของรถสามารถนำใบคู่มือจดทะเบียนไปปรับบันทึกรายการชำระภาษีได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัด/สาขาทั่วประเทศ