คนใช้รถจำนวนมากที่ต้องเดินทางไปทำงาน หรือเดินทางไปท่องเที่ยวมักจะหลีกเลี่ยงถนนเส้นหลักในเมืองและหันมาใช้ทางด่วนมากขึ้น เพื่อความรวดเร็วในการเดินทาง ซึ่งมักขับด้วยความเร็วสูงกว่าการขับรถบนทางราบด้านล่าง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้นทาง DTC มี 5 เทคนิคขับรถบนทางด่วนอย่างไรให้ปลอดภัย มาแนะนำทุกคนกันครับ

สังเกตป้ายกำหนดความเร็ว

โดยปกติตัวเลขจำกัดความเร็วบนทางด่วนมักสูงกว่าความเร็วที่ใช้กับถนนหลักในเมือง หรือ เส้นชนบท ในประเทศไทย การจำกัดความเร็วบนทางด่วนในเขตเมืองจะต้องไม่เกิน 80 กม./ชม. และไม่เกิน 110 กม./ชม. คุณสามารถขับได้อย่างถูกต้องตามกฏหมายแล้ว ยังทำให้การจราจรมีความคล่องตัวและช่วยเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย

ขับรถเว้นระยะห่างให้เหมาะสม

ขณะขับรถเราควรเว้นระยะห่างจากคันข้างหน้าให้เหมาะสมให้อยู่ในระยะที่ปลอดภัยเสมอ

ระมัดระวังมากขึ้น

ขณะขับรถบนทางด่วน เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมองข้ามหน้าให้ไกลที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อให้รับรู้อยู่ตลอดเวลาว่าทางข้างหน้าเป็นอย่างไรบ้าง

เปลี่ยนเลนด้วยความระมัดระวัง

ต้องแน่ใจทุกครั้งว่า คุณไม่ได้แซงบริเวณที่ห้ามแซงและมองกระจกหลัง เปิดไฟสัญญาณ และเปลี่ยนเลน ปฎิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งขัดเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้

จอดอย่างปลอดภัย

การจราจรบนทางด่วนมีความคล่องตัวและรถส่วนใหญ่มักจะใช้ความเร็วสูงกว่าปกติ การเบรกกะทันหันจึงเป็นเรื่องอันตรายที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง หากคุณต้องการจอดรถให้ชิดซ้าย มองหาไหล่ทางที่ใกล้ที่สุด และจอดรถให้ชิดไหล่ทางด้านนอกให้มากที่สุด ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินเช่นรถยนต์มีปัญหา ให้ขับเบี่ยงออกไปจอดข้างทางตรงที่รถผ่านไปมาน้อยๆ เปิดไฟฉุกเฉิน และวางป้ายสามเหลี่ยมฉุกเฉินให้ห่างจากรถของคุณประมาณ 50 เมตร เพื่อเตือนให้รถคันข้างหลังเห็นว่ารถของคุณกำลังจอดอยู่

และนี่คือ 5 เทคนิคขับรถบนทางด่วนอย่างไรให้ปลอดภัย ที่สามารถนำปรับใช้ได้จริงในการขับขี่ อย่าลืมนะครับว่ายิ่งขับรถเร็วเรายิ่งต้องมีสติ ไม่ประมาท มีสมาธิอยู่กับการขับรถตลอดเวลา ดังนั้นเราควรจะมีอุปกรณ์เสริมเข้ามาช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น GPS Tracking และ กล้องติดรถต่างๆ หากใครสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเรื่อง กล้องติดรถ หรือ GPS Tracking ได้ที่แบบฟอร์มได้ล่าง หรือ DTC Call Center 1176 (ตลอด 24 ชั่วโมง)