D.T.C. BLOG

อัพเดตข่าวสารความรู้โลจิสติกส์

รู้หรือไม่ อะไหล่ของรถควรเปลี่ยนตอนไหน

การขับขี่รถบนท้องถนนเราควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และสิ่งสำคัญในการขับรถก็คือ การตรวจเช็กสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะพวกอะไหล่รถยนต์ซึ่งแต่ละชิ้นก็จะมีอายุการเสื่อมสภาพที่แตกต่างกัน

วันนี้ DTC จะมาบอกสรุปให้เพื่อนๆ ว่าอะไหล่ชิ้นไหนมีอายุการใช้งานอย่างไรบ้าง ใช้นานแค่ไหนถึงควรต้องเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์ เพื่อให้รถยนต์ของคุณอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานมากที่สุด

น้ำมันเครื่อง / ไส้กรองน้ำมันเครื่อง

มีหน้าที่คอยช่วยหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ที่อยู่ภายในเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ขัดข้อง ซึ่งระยะเปลี่ยนถ่ายจะอยู่ที่ ระยะทาง 5,000 – 10,000  กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับประเภทน้ำมันที่เลือกใช้) แต่หากพบว่าน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อไหร่นั่น แสดงว่าน้ำมันเสื่อมสภาพแล้ว คุณสามารถเปลี่ยนก่อนที่มันจะถึงระยะได้เลยครับ

แบตเตอรี่

มีทั้งแบบแห้ง และแบบเปียก โดยแบบแบตเตอรี่แห้งนั้นอาจจะเหมาะกับคนลุยๆ ไม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลอะไรมากมาย แต่ราคาจะแพงกว่า ส่วนแบบแบตเตอรี่เปียกราคาถูกกว่า แต่ต้องดูแลมากกว่า เพราะต้องคอยเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดเสมอ ขอแนะนำให้ตรวจเช็คและสังเกตตลอด  1 เดือนจะดีที่สุด โดยอายุการใช้งานแบตเตอรี่แบบเปียกจะอยู่ที่   2-3    ปี

ไส้กรองอากาศ

ไส้กรองตัวนี้ทำหน้าที่ในการกรองเอาสิ่งสกปรกในอากาศก่อนที่จะเข้าไปในเครื่องยนต์ ซึ่งถ้าหากหลุดเข้าไปแล้วอาจจะส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดการอุดตัน จนทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องยนต์ลดลง การเผาไหม้ทำได้ไม่เต็มที่ วิธียืดอายุไส้กรองอากาศง่ายๆ เพียงแค่นำมาเป่าทำความสะอาดทุกๆ   3,000 – 5,000  กิโลเมตร และควรเปลี่ยนเมื่อใช้งานร่วม   20,000 กิโลเมตร หรือ   1    ปี

ผ้าเบรก

ถือเป็นอะไหล่ส่วนที่สำคัญอย่างมากในการหยุด หรือห้ามล้อ เพราะฉะนั้นต้องใส่ใจในส่วนนี้เป็นพิเศษ สำหรับระยะเวลาในการเปลี่ยนผ้าเบรกอยู่ที่   50,000 – 70,000    กิโลเมตร แต่ถ้าหากได้ยินเสียงเบรกดังผิดปกติ แสดงว่าถึงระยะเตือนแล้ว หากยังใช้งานต่อไปเรื่อยๆ จานเบรกอาจเกิดความเสียหายได้

หัวเทียน

เราควรเปลี่ยนใหม่เมื่อถึงระยะประมาณ 40,000 กิโลเมตร เพราะถ้ามันเสื่อมสภาพเมื่อไหร่ เครื่องยนต์จะทำงานได้ไม่เต็มที่ หรืออาจจะเกิดการกระตุกเวลาขับขี่ด้วยเช่นกัน

น้ำมันเกียร์ / ไส้กรองน้ำมันเกียร์

เกียร์รถยนต์มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าหากน้ำมันเกียร์หรือไส้กรองน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพ อาจจะส่งผลให้เกิดการสึกหรอและเสื่อมสภาพสูง เพราะฉะนั้นเราควรเปลี่ยนในทุก ๆ   20,000 – 40,000    กิโลเมตร

หลอดไฟ

ควรตรวจเช็กดูให้ดี ว่าหลอดไฟส่องสว่างครบทุกดวงหรือไม่ ไม่ใช่แค่เฉพาะไฟหน้า ไฟท้ายเท่านั้น ไฟเลี้ยว ไฟตัดหมอก ไฟถอยหลัง ฯลฯ ก็ไม่ควรมองข้าม หากพบเจอว่าดวงไหนขาด ก็ควรรีบจัดการเปลี่ยนทันที

ใบปัดน้ำฝน

ก่อนจะเข้าหน้าฝนในแต่ละปี ควรจัดการเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อย เพราะใบปัดน้ำฝนเป็นอะไหล่ที่มีการเสื่อมสภาพได้ง่ายมาก เนื่องจากโดนแสงแดดมากที่สุดทำให้เกิดการเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว จนทำให้ใบปัดแข็ง ปัดไม่สะอาดเท่าเดิม หรือปัดน้ำออกได้ไม่หมด ฯลฯ

สายพานไทม์มิ่ง

ถือว่าเป็นสายพานหลักสำหรับรถบางรุ่น  ซึ่งถ้าหากระยะใกล้จะถึง   100,000    กิโลเมตรแล้ว ขอแนะนำว่าให้เปลี่ยนโดยทันที เพราะหากสายพานไทม์มิ่งขาดขึ้นมา เครื่องยนต์ของคุณเสียหายรุนแรงแน่นอน