คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ GPS ติดตามรถ และกล้องติดรถยนต์หน้าหลัง

รวมทุกคำถามเกี่ยวกับ GPS ติดรถยนต์ จีพีเอส และกล้องติดรถที่คุณอยากรู้

เกี่ยวกับ GPS และการติดตามรถ

1. GPS ติดตามรถคืออะไร?

GPS ติดตามรถเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (Global Positioning System) เพื่อติดตามตำแหน่งของยานพาหนะแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณทราบตำแหน่งปัจจุบัน เส้นทางการเดินทาง และพฤติกรรมการขับขี่

จีพีเอสติดตามรถช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้รถยนต์ ช่วยในการบริหารจัดการฟลีทรถ ลดต้นทุนการเดินทาง ติดตามพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงาน และช่วยในการติดตามรถกรณีถูกโจรกรรม

GPS Tracker เน้นการติดตามตำแหน่งรถและส่งข้อมูลไปยังระบบ สามารถดูย้อนหลังและติดตามแบบเรียลไทม์ได้ ส่วน GPS นำทางเน้นการแสดงเส้นทางและนำทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งเท่านั้น

อุปกรณ์ GPS Tracking โดยทั่วไปมีอายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของอุปกรณ์และการใช้งาน แต่จะมีอุปกรณ์ที่สามารถติดตามได้แม้ไม่มีการจ่ายไฟ เช่น GPS Tracking D-Track Series ซึ่งมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นานสูงสุด 60 วัน

ใช่ จีพีเอสติดตามรถสามารถติดตั้งได้กับยานพาหนะทุกประเภท ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุก รถตู้ รถกระบะ และรถมอเตอร์ไซค์ โดยทางบริษัทมีอุปกรณ์ให้เลือกหลากหลายรูปแบบเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน สามารถตอบโจทย์ได้ทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจรถเช่า ธุรกิจ SME ฯลฯ

GPS ติดตามรถมอเตอร์ไซค์มีขนาดเล็กกว่า กันน้ำได้ดีกว่า และมักมีแบตเตอรี่ในตัวที่ทนทานกว่า เนื่องจากต้องทนต่อสภาพแวดล้อมภายนอกมากกว่า รวมถึงมีระบบกันขโมยและการแจ้งเตือนพิเศษสำหรับรถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ เช่น DTRACK-M

เกี่ยวกับกล้องติดรถยนต์

7. กล้องติดรถยนต์มีประโยชน์อย่างไร?

กล้องติดรถยนต์ช่วยบันทึกเหตุการณ์ระหว่างการขับขี่ เป็นหลักฐานในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดข้อพิพาทในการเคลมประกัน ป้องกันการโจรกรรม บันทึกพฤติกรรมการขับขี่ของคนขับ และยังช่วยในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กล้องหน้ารถบันทึกเฉพาะเหตุการณ์ด้านหน้ารถ ส่วนกล้องติดรถยนต์หน้าหลังบันทึกทั้งด้านหน้าและด้านหลังของรถ ให้มุมมองที่ครอบคลุมมากกว่า โดยเฉพาะในกรณีที่ถูกชนท้าย

กล้องรอบคันเป็นระบบกล้องที่ติดตั้งรอบตัวรถ (หน้า หลัง ซ้าย ขวา) เพื่อให้มุมมอง 360 องศา ช่วยในการจอดรถ การมองจุดบอด เพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่ และเป็นหลักฐานในกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดรอบตัวรถ เช่น TRUCK Dash-Cam C40 ที่มีกล้องรอบคัน สำหรับติดตั้งกับรถบรรทุก มองเห็นทุกมุมอับสายตา ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) มีศูนย์บริการติดตั้ง GPS และ กล้องรถยนต์ครอบคลุมทั่วประเทศ ในนาม DTC SHOP สามารถค้นหาศูนย์บริการใกล้คุณได้ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของเรา หรือติดต่อสายด่วนเพื่อนัดหมายช่างมาติดตั้งถึงที่

กล้องวงจรปิดติดรถหรือ MDVR มีความสามารถในการบันทึกและส่งภาพแบบเรียลไทม์ มีระบบจัดเก็บข้อมูลที่ใหญ่กว่า สามารถเชื่อมต่อกับกล้องหลายตัวพร้อมกัน และมักใช้ในรถเชิงพาณิชย์ ในขณะที่กล้องติดรถยนต์ทั่วไปเน้นการบันทึกข้อมูลเพื่อดูย้อนหลังทำให้สามารถตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับได้แบบ Real-Time เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยให้กับธุรกิจของคุณ

กล้องเรียลไทม์เป็นกล้องที่สามารถส่งภาพและวิดีโอแบบทันทีผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ช่วยให้เจ้าของหรือผู้จัดการฟลีทสามารถดูสถานการณ์ภายในและภายนอกรถได้ตลอดเวลา เหมาะสำหรับธุรกิจขนส่ง รถโดยสาร หรือรถขนเงิน

การติดตั้งและการเลือกอุปกรณ์

13. GPS ติดรถบรรทุกควรเลือกแบบไหน?

GPS ติดรถบรรทุกควรเลือกรุ่นที่ทนทานต่อสภาพการใช้งานหนัก มีความแม่นยำสูง มีระบบรายงานน้ำมัน ระบบติดตามเส้นทาง และระบบรายงานพฤติกรรมการขับขี่ ทางบริษัทมีรุ่นเฉพาะสำหรับรถบรรทุกโดยเฉพาะ เช่น BLUEBOX , DTRACK

GPS ติดรถกระบะควรเลือกรุ่นที่ทนทานต่อสภาพอากาศและการใช้งานหนัก มีระบบกันน้ำที่ดี โดยเฉพาะสำหรับรถกระบะที่ใช้งานในพื้นที่ก่อสร้างหรือชนบท ทางบริษัทมีอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรถกระบะโดยเฉพาะ

กล้องติดรถบรรทุกควรเลือกรุ่นที่มีความทนทานสูง กันน้ำได้ดี มีระบบป้องกันการสั่นสะเทือน มุมมองกว้าง ความละเอียดสูง และมีระบบบันทึกที่สามารถเก็บข้อมูลได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรพิจารณาเลือกระบบ MDVR สำหรับรถบรรทุกเชิงพาณิชย์เนื่องจากสามารถตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับได้แบบ Real-Time

MDVR (Mobile Digital Video Recorder) คือระบบบันทึกวิดีโอดิจิทัลสำหรับยานพาหนะ สามารถเชื่อมต่อกับกล้องหลายตัว บันทึกและส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ เหมาะกับรถเชิงพาณิชย์ เช่น รถบรรทุก รถโดยสาร รถขนเงิน หรือรถในธุรกิจขนส่ง และรวมถึง 

🔵ADAS ระบบที่ช่วยให้คนขับรถสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น

🔵 DMS ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้รถใช้ถนน และช่วยลดความเสียหายจากอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้

การติดตั้ง CCTV ติดรถควรคำนึงถึงตำแหน่งที่ไม่บดบังทัศนวิสัยของคนขับ การเดินสายไฟให้เรียบร้อย การเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟที่เสถียร ความมั่นคงของอุปกรณ์เพื่อไม่ให้หลุดระหว่างการขับขี่ และการปรับมุมกล้องให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญ

การใช้งานและการดูแลรักษา

18. GPS ติดรถต้องเสียค่าบริการรายเดือนหรือไม่?

ใช่ GPS ติดรถส่วนใหญ่มีค่าบริการรายเดือนสำหรับการใช้งานระบบติดตามและแพลตฟอร์มออนไลน์ ทางบริษัทมีแพ็คเกจให้เลือกหลากหลายตามความต้องการใช้งาน โดยค่าบริการจะครอบคลุมถึงการดูแลระบบ อัพเดทซอฟต์แวร์ และการสำรองข้อมูล

จีพีเอสติดตามรถใช้งานง่ายผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือเว็บไซต์ ที่ทาง DTC เป็นผู้พัฒนา ซึ่งคุณสามารถดูตำแหน่งปัจจุบันของรถ ประวัติการเดินทาง ความเร็ว เส้นทาง และรับการแจ้งเตือนต่างๆ ได้ ระบบยังมีรายงานสรุปการใช้งานรถประจำวัน สัปดาห์ และเดือน โดยสามารถดูย้อนหลังได้สูงสุด 45 วัน

GPS ส่วนใหญ่มีแบตเตอรี่สำรองในตัวที่ทำงานต่อเนื่องได้ประมาณ 8-48 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรุ่น) เมื่อไม่ได้รับไฟจากรถ ซึ่งช่วยในกรณีที่รถถูกโจรกรรมและมีการตัดไฟจากแบตเตอรี่หลัก อุปกรณ์จะยังคงส่งสัญญาณตำแหน่งได้

GPS ส่วนใหญ่มีแบตเตอรี่สำรองในตัวที่ทำงานต่อเนื่องได้ประมาณ 8-48 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรุ่น) เมื่อไม่ได้รับไฟจากรถ ซึ่งช่วยในกรณีที่รถถูกโจรกรรมและมีการตัดไฟจากแบตเตอรี่หลัก อุปกรณ์จะยังคงส่งสัญญาณตำแหน่งได้

กล้องติดรถยนต์ควรได้รับการทำความสะอาดเลนส์สม่ำเสมอ ตรวจสอบการเชื่อมต่อสายไฟ อัพเดทซอฟต์แวร์ตามที่ผู้ผลิตแนะนำ ตรวจสอบการ์ดความจำเป็นระยะเพื่อป้องกันการเสียหาย และหลีกเลี่ยงการวางกล้องไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน

GPS Tracking มีฟีเจอร์แจ้งเตือนหลากหลาย เช่น แจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกพื้นที่กำหนด (Geo-fencing), แจ้งเตือนความเร็วเกิน, แจ้งเตือนการสตาร์ทเครื่องยนต์นอกเวลา, แจ้งเตือนเมื่อรถถูกลากจูง แจ้งเตือนการใช้งานน้ำมันเชื้อเพลิง และแจ้งเตือนกรณีแบตเตอรี่อุปกรณ์ต่ำ

เทคนิคและข้อมูลเพิ่มเติม

24. เสารับสัญญาณ GPS สามารถติดตั้งที่ใดได้บ้าง?

เสารับสัญญาณ GPS สามารถติดตั้งได้หลายตำแหน่ง เช่น บริเวณใต้คอนโซลหน้ารถ ใต้แผงหน้าปัด บริเวณกระจกหน้ารถ หรือซ่อนไว้ใต้เบาะ ตำแหน่งที่เหมาะสมควรไม่มีวัสดุโลหะบังสัญญาณ GPS มากเกินไป

กล้องหน้ารถควรมีความละเอียดอย่างน้อย Full HD (1080p), มุมมองกว้าง 140 องศาขึ้นไป, ความสามารถในการบันทึกในที่มืด, ระบบบันทึกอัตโนมัติเมื่อเกิดแรงกระแทก, GPS ในตัว (ถ้ามี), และระบบบันทึกแบบวนซ้ำเพื่อประหยัดพื้นที่

การเชื่อมต่อ GPS กับแอปพลิเคชันทำได้โดยการลงทะเบียนอุปกรณ์ผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท ใส่รหัสประจำตัวอุปกรณ์ (Device ID) ในระบบ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจาก App Store หรือ Google Play และล็อกอินด้วยบัญชีที่ลงทะเบียนไว้เนื่องจากการเชื่อมต่อ GPS สามารถทำได้หลายรูปแบบ และเรามีทีมงานซัพพอร์ตเมื่อลูกค้าสั่งซื้อ GPS เรียบร้อยแล้ว

GPS สามารถบันทึกข้อมูลการขับขี่ย้อนหลังได้นานสูงสุด 45 วัน ขึ้นอยู่กับแพ็คเกจที่เลือกใช้ ข้อมูลที่บันทึกได้แก่ เส้นทาง ความเร็ว เวลาในการขับขี่ จุดจอด และพฤติกรรมการขับขี่ต่างๆ

มีอุปกรณ์ GPS บางรุ่นสามารถเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์วัดระดับน้ำมันเพื่อรายงานการใช้น้ำมัน การเติมน้ำมัน และการรั่วไหลของน้ำมัน ช่วยในการตรวจสอบการทุจริตและลดต้นทุนการใช้น้ำมันสำหรับธุรกิจ รุ่นที่แนะนำได้แก่ BLUEBOX

ได้ข้อมูลจาก GPS และภาพจากกล้องติดรถยนต์สามารถใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลได้ โดยเฉพาะในกรณีอุบัติเหตุหรือการจราจร อย่างไรก็ตาม การยอมรับหลักฐานขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลและความชัดเจนของข้อมูลที่บันทึกได้